25/04/2024

Cabin 4 Restaurant & Cafe Review By Tan

DayByDayStory ทริปนี้ พาไปรีวิวย่านรังสิตคลองสี่ ออกนอกเมือง ผ่านเทือกสวนไร่นา เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศในสวนอาหารริมคลอง ธรรมชาติที่แสนจะอบอุ่น บนเนื้อที่ 2 ไร่ ที่ถูกดัดแปลงให้เป็นศาลาริมบึง เรือนไทย สวนอาหารและคาเฟ่ ที่ใช้ชื่อว่า Cabin 4 Restaurant & Cafe เรือนปลาทู

ด้วยความกว้างขวางของสถานที่ ทำให้ Cabin 4 Restaurant&Cafe เรือนปลาทูแห่งนี้ มีความหลากหลายในการออกแบบตกแต่งให้กลมกลืนกับธรรมชาติ เหมือนไปเที่ยวบ้านที่ชนบทสมัยก่อนยังไงยังงั้น มีทั้งซุ้มริมบึงบัว เรือพายเก็บบัวในบึงน้อย มีมุมเลี้ยงเป็ด ห่านไว้ดูเล่นที่สวนด้านในอีกด้วย หรือจะขึ้นบนเรือนไทยหลังใหญ่โอ่อ่า และ เรือนกระจกติดแอร์ริมคลองด้านหลังไว้รับรองที่มาเป็นกลุ่ม มีมุมให้รับประทานอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายบรรยากาศจริงๆ ทั้ง open air และ social distancing ด้วยค่ะ เหมาะมากสำหรับครอบครัว เพื่อนฝูง คนรักที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจำเจในเมือง รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ

หลังจากที่เราได้ถ่ายภาพบรรยากาศของร้านพอสมควร เราก็ได้พูดคุยกับเจ้าของร้านคุณกร และเชฟของสวนอาหารนี้ ซึ่งแต่ละเมนูอาหารของที่นี่ ต้องขอบอกเลยว่า ไม่ได้เป็นบ้านนอกคอกนาเหมือนบรรยากาศที่เราถ่ายภาพมาโชว์กันเลยล่ะค่ะ

เจ้าของร้านนี้ ชื่อคุณกร หนุ่มใหญ่มาดเข้มมาแนะนำเชฟหนุ่มรูปหล่อ ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆ มาพูดคุยกับเราในเรื่องของความเป็นมา และเมนูเด็ดๆของที่นี่

เชฟหนุ่มหลานชายเจ้าของคนนี้ ชื่อคุณวรากรณ์ ทิพณีย์ หรือเชฟช็อปเปอร์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของร้านด้วย ได้เล่าถึงเรื่องราวของเค้าให้ฟังว่า “ผมชอบทำอาหารมาตั้งแต่มัธยม สมัยไปเรียนที่ประเทศอินเดีย คิดถึงอาหารไทยมากเลยทำอาหารทานกับเพื่อน ๆ ที่รร. พอกลับมาเมืองไทย จึงได้มาเรียนสายการโรงแรม ที่มหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด (Stamford Univercity) แล้วมีโอกาสไปฝึกงานในครัวของโรงแรมมิสเชอรินสตาร์ ที่ประเทศฝรั่งเศส จากนั้นพอกลับมาเมืองไทยก็ยังได้มีโอกาสกลับมาฝึกงานที่โรงแรมระดับ 5 ดาว พอเรียนจบจึงมีความตั้งใจจะไปทำงานในต่างประเทศ แต่เจอวิกฤตช่วงนี้ ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ ประจวบเหมาะกับทางบ้านอยากให้เปิดร้านอาหารเพราะว่าที่บ้านมีกิจการร้านเสื้อปลาทูที่ตลาดน้ำอัมพวา ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแป๊ะเฮงที่เปิดอยู่อัมพวาเช่นกัน ทางบ้านจึงอยากให้ต่อยอดธุรกิจร้านอาหาร โดยพ่อให้ไปเรียนเพิ่มเติมที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ แล้วก็มาเปิดร้านอาหาร CABIN 4 Retuarant & Café เรือนปลาทู ขึ้นมานี่แหละครับ “

“ร้านนี้เป็นเหมือน Family Business คือ ทำกันเองในครอบครัว มีทั้งคุณแม่ คุณน้า พ่อ ถ้าอาว่างก็จะมาช่วยกันทำและช่วยกันดูแล อาหารที่นี่จะพิถีพิถันทำแบบจานต่อจาน เพื่อให้ได้ทั้งคุณภาพและความอร่อย ส่วนแนวอาหารก็จะเน้นไปทางอาหารไทยแบบฟิวชั่นปรับตามยุคสมัย แล้วก็จะมีสเต็กที่ถือว่าเป็นอาหารเด่นของที่นี่อีกด้วย อย่างที่บอกตอนต้นว่าเรามีหลายธุรกิจ จึงมี Story เกิดขึ้น คือ ทุกธุรกิจของเราจะมีปลาทูเข้ามาเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ธุรกิจแรกเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ปลาทู ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแป๊ะเฮงก็จะมีขนมจีนน้ำยาปลาทู และที่นี่ เรือนปลาทู เลยต้องมี story ที่เกี่ยวกับปลาทูด้วยเช่นกัน นั่นก็คือน้ำพริกปลาทู ครับ”

ในส่วนของสเต็กก็จะมีสเต็กเนื้อธรรมดา และสเต็กเนื้อ Dry Aged ซึ่งที่ร้านได้อิมพอร์ตตู้เย็นจากประเทศเยอรมัน สำหรับบ่มเพาะเนื้อสเต็กโดยเฉพาะ ในอุณหภูมิ 1.6 องศา เป็นเวลา 30-60 วัน เพื่อจะได้สัมผัสกับความนุ่มและรสชาติที่ลุ่มลึกขึ้นแก่เนื้อสัตว์ที่มีรสชาติดั้งเดิม อร่อยถึงเนื้อใน และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น นอกจากนี้ก็ยังมีสเต็กปลาแซลม่อน สเต็กหมู ซึ่งเราจะค่อยๆเพิ่มเมนูให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อคงคุณภาพให้ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้าน

หลังจากพูดคุยกันได้ซักพัก เชฟก็ขอตัวไปทำอาหารให้เราและลูกค้าท่านอื่นๆ ที่ทยอยกันเข้ามาที่เรือนปลาทูแห่งนี้ ส่วนเราก็มาเริ่มต้นอาหารอร่อยๆ ที่ลำเลียงส่งมาทีละเมนูกันดีกว่าค่ะ

เริ่มกันที่อาหารจานเด็ดที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่ร้าน ก็คงต้องเป็นอาหารที่มีชื่อตรงกับชื่อร้านเพราะที่นี่เป็นเรือนปลาทู จึงต้องมีอะไรๆ ที่เกี่ยวข้องกับปลาทูอย่างที่เชฟช็อปเปอร์เกริ่นมา เมนูเด็ดจานนี้เป็นน้ำพริกปลาทูควาย จุดเด่นของจานนี้คือทางร้านใช้ปลาทูตัวใหญ่หรือเรียกว่าปลาทูควายนั่นเอง ส่วนผักเครื่องเคียงนั่นเล่า มีหลากหลาย ล้วนแล้วแต่น่าทานทั้งสิ้น ที่สำคัญผักลวกตามฤดูกาลของที่นี่ปลูกเอง จึงปลอดสารพิษ 100 % ส่วนน้ำพริกกะปิสุดแซ่ปสูตรของที่นี่ เป็นสูตรเฉพาะที่ทางร้านบรรจงรังสรรค์ให้เป็นเอกลักษณ์ของเรือนปลาทูแห่งนี้เลยทีเดียวค่ะ

มาต่อกันที่เมนูที่เชฟภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือ สเต็กเนื้อ Dry Aged ซึ่งเป็นเมนูโดดเด่นที่สุดของร้าน เพราะที่ร้านนี้เค้าอิมพอร์ตตู้เย็นจากประเทศเยอรมัน เพื่อมาบ่มเพาะเนื้อในอุณหภูมิที่เหมาะเจาะคือ 1.6-2 องศา ใช้เวลา 30-60 วัน เพื่อให้ได้เนื้อวัวที่มีรสชาติแท้จริงของเนื้อ และคงความนุ่มชุ่มชื้น มีเอกลักษณ์ของเนื้อ อร่อยระดับ 5 ดาว และก็ถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่ร้านนี้อีกด้วยค่ะ

ต่อมาเป็นเมนูที่ขอบอกว่าติดอกติดใจเป็นพิเศษ นั่นคือ แกงคั่วกุ้งเงาะ /ผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งเป็นการนำผลไม้ที่มีตามฤดูกาลช่วงนั้นมายัดไส้กุ้ง อย่างเช่น เงาะ มะยงชิด ฯลฯ แต่ช่วงนี้เป็นฤดูกาลของเงาะ จึงมาเป็นแกงคั่วเงาะยัดใส้ด้วยกุ้งเนื้อแน่นๆ ความหวานของเงาะ เวลาทานพร้อมกับกุ้ง มันอร่อยกลมกลืนมากๆ ค่ะ ใครไม่เคยลอง มาที่นี่ต้องลองแกงคั่วกุ้ง เมนูเด็ดจานนี้นะคะ

เมนูต่อมาเลิศหรู อร่อยล้ำ นั่นคือสเต็กปลาแซลม่อนซอสผัดฉ่า แซลม่อนชิ้นใหญ่เนื้ออวบๆ อบสุกได้ที่ราดด้วยซอสผัดฉ่าเผ็ดร้อนกลมกล่อม อร่อยฟินนสุดๆ เลยล่ะค่ะ

ต่อกันด้วยเมนูน้ำๆ บ้าง แกงเลียงกุ้งสด ที่นี่ไม่เหมือนแกงเลียงที่เคยรับประทานที่อื่นค่ะ ความเผ็ดร้อนได้ที่ไม่มากน้อยเกินไป ทำให้คนที่ไม่ทานเผ็ดจัด สามารถรับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อย สำหรับคนชอบทานผัก ไม่ผิดหวังเพราะมีผักหลากหลายชนิดในหม้อไฟแกงเลียงครบรส ครบเครื่องแบบไม่ต้องบรรยายมากมายเลยค่ะ

เมนูต่อมาแบบบ้านๆ หรือพื้นๆ เพราะถือเป็นอาหารหลักประจำบ้าน ก็คือไข่เจียว แต่ร้านนี้เค้าไม่เจียวธรรมดาค่ะ ขอแบบหรูๆ หน่อยก็ต้องเป็นไข่เจียวฟู ซึ่งฟูฟ่องเนื้อแน่น แบบอู้ฟู่ไม่อายใครนะคะ

ส้มตำไหลบัวกุ้งสุก/กุ้งดิบ/ปลาร้า เมนูนี้แซ่ปอีหลีแบบติดลิ้นติดปากก็ว่าได้ เป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักและรับประทานไหลบัว เป็นส่วนรากของสายบัว จะมีความนุ่มกว่าสายบัว นำมาหั่นเฉียงๆ คล้ายหั่นตะไคร้ แต่พอรับประทานเข้าไป มันนุ่มกรุบจริงๆค่ะ เป็นส้มตำที่ครีเอทได้แปลกและน่าทานมากๆค่ะ

สำหรับ 2 เมนูสุดท้ายเป็นเมนูสปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล และสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ดูจากภาพก็แล้วกันค่ะ ว่าน่ารับประทานขนาดไหน ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ซักคำให้ลึกซึ้ง ต้องมาถึงที่แล้วรับประทานเอง จึงจะรู้สึกได้

มาถึงช่วงสุดท้าย ต้องบอกว่าอิ่มแค่ไหนถามใจดู จึงขอตบท้ายด้วยลาเต้ร้อนๆ แบบปาดหน้าสวยๆ จากคาเฟ่เล็กๆ ของที่นี่ ที่ใส่ใจในส่วนของเมล็ดกาแฟ และเครื่องชงกาแฟที่มีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าได้รสสัมผัสที่ดีที่สุดในกาแฟแต่ละแก้ว ขอบอกว่ารสชาติชุ่มชื่นหัวใจมากๆ ทำให้ขับรถกลับบ้านแบบอิ่มหนำสำราญใจจริงๆ ค่ะ

คุณจะไม่รู้สึกเสียดายเวลาเลยที่ต้องเดินทางมาถึงที่นี่ ชื่นชมกับบรรยากาศ ธรรมชาติ และรับประทานอาหารอร่อยๆ ที่ปราศจากผงชูรส และรื่นรมย์กับเครื่องดื่มชากาแฟ รวมทั้งซุ้มร้านของที่ระลึก งานฝีมือและของฝาก เมื่อรับประทานอาหารเสร็จสามารถเดินเล่น หรือนอนพักผ่อนตามจุดต่างๆในบ้านของเราได้ ด้วยบริการที่เป็นกันเอง จะทำให้ลุกค้าทุกท่านที่มารู้สึกเหมือนพักผ่อนอยู่ที่บ้านได้เลยค่ะ ที่ร้านมี 4 โซน มีประมาณ 30 โต๊ะ 150 ที่นั่ง เปิดตั้งแต่เวลา 09.30-20.00 น.ทุกวัน เว้นวันจันทร์ ช่วงนี้เปิดให้บริการทานในร้าน 25% ของพื้นที่ตามประกาศ​รัฐบาล​ ตั้งแต่ 09:30-20:00น. และทางร้านยังมีโปรโมชั่น​ลด 10% วันอังคาร-วันศุกร์ เฉพาะเมนูอาหารให้คุณลูกค้า ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564

CABIN 4 Retuarant & Café เรือนปลาทู ตั้งอยู่ที่ 27/22 หมู่ที่ 5 ซอย 13 ตะวันตก ตำบลคลอง 4 อำเภอคลองหลวง ปทุมธานี 12120 โท: 064 826 5566 (คุณลูกค้าจะมาใช้บริการที่ร้าน กรุณาโทรสอบถามและสั่งอาหารก่อนล่วงหน้าค่ะ ) Page FaceBook : https://www.facebook.com/Cabin4restaurant.cafe/ พิกัด : https://goo.gl/maps/UwLRRbnJBjH4pk7G7

Review By Tan Editor