
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี ที่ผ่านมา บริษัทได้มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการเพื่อเป็นผู้นำในการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานในระดับสากล ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ นับตั้งแต่การให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มาจนถึงการให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ซึ่งมีการพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ เพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ประชาชน โดยบริษัทฯ ยึดหลักการบริหารงานตามหลักสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมบุคลากรทุกคนให้มีความตระหนัก ยึดมั่นการสร้างความยุติธรรมและความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างเป็นรูปธรรม

โดยล่าสุด บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 หน่วยงาน ที่ได้รับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ระดับ ”ดีเด่น” ประจำปี 2568 (Human Rights Awards 2025) จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพัฒนาการเข้าถึงสถานีรถไฟฟ้า ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบขนส่งสาธารณะรอง (Feeder) โดยบูรณาการความร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดขบวนรถไฟดีเซลรางในเส้นทาง ธนบุรี – ตลิ่งชัน – นครปฐม (ใช้เวลาเพียง 55 นาที และอัตราค่าโดยสาร 20 บาทเท่านั้น) เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางให้กับประชาชน ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดนครปฐมเชื่อมเข้าสู่สนามบินดอนเมือง (สถานีดอนเมือง) ได้อย่างสะดวก อีกทั้ง รฟฟท. ยังได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) จัดรถขนส่งสาธารณะที่ใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานไฟฟ้า (Electric Bus) หรือ EV Bus พลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้ใช้บริการสามารถเชื่อมต่อระหว่าง สถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง(สถานีหลักสี่) จุดจอดบริเวณปากซอยแจ้งวัฒนะ 5 ไปยังศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร B และ C (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) โดยรฟฟท. ได้คำนึงถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีผ่านการให้บริการ สนับสนุนให้เกิดระบบขนส่งรองในเส้นทางอื่นเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ด้านการให้บริการเดินรถไฟฟ้า บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของความตรงต่อเวลา ความน่าเชื่อถือ และความพร้อมของขบวนรถไฟฟ้าในการให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยในปัจจุบันรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มีสถิติความตรงต่อเวลา ความน่าเชื่อถือ และความพร้อมของขบวนรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงตั้งแต่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อยู่ที่ 99.96% , 99.97% และ 100% ตามลำดับ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดให้บริการ

ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารรวมมากกว่า 34 ล้านคน ซึ่งจะเห็นได้จากผลการสำรวจความพึงพอใจจากผู้ใช้บริการ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 ซึ่งลงพื้นที่สำรวจโดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ซึ่งเป็นสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการสำรวจและวิจัย โดยผลปรากฏว่าจากคะแนนเต็ม 5 ผู้โดยสารมีความพึงพอใจด้านการให้บริการ 4.55, ด้านความปลอดภัย 4.55, ด้านความน่าเชื่อถือต่อความตรงต่อเวลา ความถี่ และคุณภาพในการเดินรถไฟฟ้า 4.52, ด้านการประชาสัมพันธ์ และให้ข้อมูล 4.48, ด้านคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกบนสถานี และในขบวนรถ 4.42, ด้านเหรียญโดยสาร/บัตรโดยสาร และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด 4.50 ซึ่งจากผลสำรวจดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าผู้โดยสารมีความเชื่อมั่นต่อการให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในด้านต่างๆสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมาก สืบเนื่องมาจากการมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บริษัทฯไม่เพียงแต่มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการเดินรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR ควบคู่ไปด้วย โดยได้ดำเนินการโครงการต่างๆที่สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างพนักงานกับคนในชุมชน รวมถึงรณรงค์ให้พนักงานทุกคนให้มีความตระหนักและเห็นความสำคัญของการทำกิจกรรม CSR ด้วย

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าด้วยมาตรฐานในระดับสากลที่บริษัทนำมาใช้ขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ จะส่งผลให้สามารถยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงบริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพ เพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นที่ผู้โดยสารได้ให้ความไว้วางใจรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงด้วยดีเสมอมา และจะมุ่งมั่นพัฒนาระบบขนส่งทางราง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง โซเชียลมิเดียทุกแพลตฟอร์ม Facebook Fan Page, Twitter , Instagram, Youtube, Tiktok พิมพ์ชื่อ “RED Line SRTET” หรือส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง และ hhttp://www.srtet.co.th
“มากกว่าการเดินทางคือ …ความพิเศษ”

รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง